จากรายงานของทีมข่าวกระบี่ที่ไปเที่ยวกระบี่มาเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 58 ที่ผ่านมานี้เอง
สำนักข่าวจังหวัดกระบี่ได้รายงานว่า มีชาวบ้านในชุมชนบ้านคลองหิน ม.7 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ ต้องเผชิญกับตัวต่อหัวเสือหลายร้อยตัว ที่ได้ยึดเสาไฟกลางหมู่บ้านบริเวณสามแยกสร้างรังขนาดใหญ่ โดยรังต่อหัวเสือนี้มีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร กว้างประมาณ 20 เซนติเมตร เข้าต่อยทำร้ายประชาชนที่เดินไปมาในบริเวณดังกล่าว
ภายหลังจากที่ทีมงานได้รับรายงานจากแหล่งข่าวกระบี่นั้นก็ทราบว่า ชาวบ้านคลองหิน ไสไทย กระบี่ ต่างก็หวาดกลัวต่อหัวเสืออาละวาดหนักหลังโดนเผารัง และได้รุมต่อยชาวบ้านกว่าสิบคน
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 58 ที่ผ่านมานี้เอง มีชาวบ้านในชุมชนบ้านคลองหิน ม.7 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ ต้องผวาหนักตามที่รายงานไปแล้วนั้น สาเหตุก็เพราะมีตัวต่อหัวเสือได้ยึดเสาไฟกลางหมู่บ้านบริเวณสามแยกสร้างรังขนาดใหญ่ โดยรังต่อหัวเสือนี้มีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร กว้างประมาณ 20 เซนติเมตร สาเหตุตรวจพบว่า ก่อนนั้นมีมือดีแอบเผารังต่อหัวเสือขนาดใหญ่ ที่อยู่กับโคมไฟส่องสว่างกลางหมู่บ้าน จึงทำให้ต่อหวงรัง เลยเกิดอาละวาดหนักทำร้ายผู้คนผ่านไปมา อยากวอนข่าวกระบี่และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องและผู้เชี่ยวชาญ เข้ามาช่วยกำจัดต่อหัวเสือแห่งนี้ เพราะหวั่นเป็นอันตรายต่อลูกหลานและคนสัญจรไปมา
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า นางม๊ะสาว วัย 60 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 23/21 หมู่ 7 ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ได้เล่าเหตุการณ์ว่า ตัวต่อดังกล่าวมาสร้างรังเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว โดยยึดเอาบริเวณยอดเสาไฟส่องสว่างของ อบต. เป็นที่สร้างรังและขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อคืนวันที่ 28 มิ.ย. 58 ไม่รู้ใครที่ไหน แอบเข้ามาเผารังต่อหัวเสือหวังเอารังและตัวอ่อนไปกิน แต่รังที่ถูกเผาบางส่วนโดนไฟ ทำให้ตัวแม่ต่อหัวเสือนอนตายเกลื่อนเต็มพื้นถนน แต่คิดว่ายังคงมีตัวแม่และราชินีอยู่ ไม่ได้ถูกกำจัดทั้งหมด เพราะจากจุดที่ตัวต่อทำรังเป็นโคมหลอดไฟสาธารณะของหมู่บ้าน อาจมีตัวต่อบินออกหากินอยู่บ้างบางส่วน
ดังนั้นจึงทำให้ตัวต่อที่รอดชีวิตยิ่งหวงรังมากขึ้นและเกิดปรากฏการณ์ต่อหัวเสืออาละวาดไล่ต่อยคน ส่วนตนเองนั้นลำบากมาก เพราะบ้านอยู่ใกล้รังต่อ ทำให้ต้องปิดหน้าต่าง และประตูบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวต่อเข้ามาทำร้าย ในขณะที่ตัวต่อนั้นภายหลังถูกเผา ก็บินวนเวียนบริเวณรังด้วยความหวงรัง ทำให้ตนเองและผู้สัญจรไปมาต้องหลบกันพัลวัน และเกรงว่าอาจถูกทำร้ายได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาจัดการดูแล